ท่อสแตนเลส 304 ดีไหม? มารู้จักกับ คุณสมบัติ ของท่อสแตนเลสกลม การใช้งาน และราคา

สแตนเลส 304 เป็นเหล็กกล้าไร้สนิมที่มีส่วนผสมหลักคือเหล็กกล้า 70-75% โครเมียม 18% นิกเกิล 8% มีคุณสมบัติที่แข็งแรงในระดับกลาง แต่ทนต่ออุณหภูมิสูงถึง 1400 องศาเซลเซียส ทนความร้อนมาก ทนต่อการกัดกร่อนสูง ไม่เป็นสนิม
คุณสมบัติเด่นของสแตนเลส 304
ทนต่อการกัดกร่อนสูง สามารถใช้ได้ดีกับอาหารมีความปลอดภัยสูง ถูกสุขลักษณะอนามัย
ทนต่ออุณหภูมิสูงถึง 1400 องศาเซลเซียส
แข็งแรงระดับกลาง
ขึ้นรูปง่าย
เชื่อมได้ง่าย

สแตนเลส 304 ในภาษาอังกฤษเรียกว่า stainless steel 304 หรือ 304 stainless steel 

ท่อสแตนเลส มีเกรดอยู่หลายเกรด แต่ละเกรดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปริมาณของธาตุโครเมียม นิกเกิล และโมลิบดีนัม
เกรดสแตนเลสที่นิยมใช้ทำท่อ
– เกรด 304 
เป็นเกรดสแตนเลสที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีส่วนผสมของโครเมียม 18% และนิกเกิล 8% มีคุณสมบัติทนต่อการกัดกร่อนสูง ไม่เป็นสนิม นิยมนำมาใช้ในงานทั่วไป เช่น ท่อประปา ท่อระบายน้ำ ท่อน้ำดื่ม ท่ออุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ท่อเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
– เกรด 316 
เป็นเกรดสแตนเลสที่มีส่วนผสมของโครเมียม 16-18% นิกเกิล 10-12% และโมลิบดีนัม 2-3% มีคุณสมบัติทนต่อการกัดกร่อนสูงเป็นพิเศษ ทนต่อสารเคมีบางชนิด เช่น กรดคลอไรด์ กรดซัลฟิวริก เป็นต้น นิยมนำมาใช้ในงานที่ต้องสัมผัสกับสารเคมี เช่น อุตสาหกรรมเคมี อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมก่อสร้าง เป็นต้น
– เกรด 316L 
เป็นเกรดสแตนเลสที่มีส่วนผสมของโครเมียม 16-18% นิกเกิล 10-12% และโมลิบดีนัม 2-3% เช่นเดียวกับเกรด 316 แต่มีปริมาณคาร์บอนต่ำ ทำให้ทนต่อการกัดกร่อนได้ดียิ่งขึ้น นิยมนำมาใช้ในงานที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีที่มีความรุนแรง เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมพลังงาน เป็นต้น

เกรดสแตนเลสอื่น ๆ 
นอกจากเกรดสแตนเลสที่กล่าวมาแล้ว ยังมีเกรดสแตนเลสอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น
– เกรด 201 
เป็นเกรดสแตนเลสที่มีส่วนผสมของโครเมียม 18% และนิกเกิล 8% เช่นเดียวกับเกรด 304 แต่มีปริมาณคาร์บอนสูงกว่า ทำให้มีความแข็งแรงกว่า แต่ทนต่อการกัดกร่อนน้อยกว่า
– เกรด 309 
เป็นเกรดสแตนเลสที่มีส่วนผสมของโครเมียม 22-25% นิกเกิล 12-15% และโมลิบดีนัม 2-3% มีคุณสมบัติทนต่ออุณหภูมิสูงเป็นพิเศษ นิยมนำมาใช้ในงานที่ต้องสัมผัสกับอุณหภูมิสูง เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมพลังงาน เป็นต้น
– เกรด 310 
เป็นเกรดสแตนเลสที่มีส่วนผสมของโครเมียม 25-29% นิกเกิล 16-18% และโมลิบดีนัม 2-3% มีคุณสมบัติทนต่ออุณหภูมิสูงเป็นพิเศษ นิยมนำมาใช้ในงานที่ต้องสัมผัสกับอุณหภูมิสูงและสารเคมี เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมพลังงาน เป็นต้น
การเลือกเกรดสแตนเลสสำหรับทำท่อ ควรพิจารณาจากลักษณะการใช้งานเป็นหลัก เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและการใช้งานมากที่สุด

เมื่อแบ่งประเภทสแตนเลสตามองค์ประกอบทางเคมี สแตนเลสสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 กลุ่มหลัก ดังนี้
1. กลุ่มออสเทนนิติก (Austenitic) 
เป็นกลุ่มสแตนเลสที่มีโครงสร้างผลึกออสเทนนิติกเป็นหลัก มีลักษณะเด่นคือ ไม่ดูดซึมแม่เหล็ก ทนต่อการกัดกร่อนได้ดี นิยมนำมาใช้ในงานทั่วไป เช่น ท่อประปา ท่อระบายน้ำ ภาชนะบรรจุอาหาร เครื่องครัว เป็นต้น
2. กลุ่มเฟอริติค (Ferritic) 
เป็นกลุ่มสแตนเลสที่มีโครงสร้างผลึกเฟอริติคเป็นหลัก มีลักษณะเด่นคือ ราคาถูก ขึ้นรูปง่าย เชื่อมง่าย แต่ทนต่อการกัดกร่อนได้น้อยกว่ากลุ่มออสเทนนิติก นิยมนำมาใช้ในงานที่ต้องสัมผัสกับอุณหภูมิสูง เช่น อุปกรณ์ในเตาอบ เตาเผา เป็นต้น
3. กลุ่มมาร์เทนซิติค (Martensitic) 
เป็นกลุ่มสแตนเลสที่มีโครงสร้างผลึกมาร์เทนซิติคเป็นหลัก มีลักษณะเด่นคือ มีความแข็งแรงสูง ทนต่อแรงกระแทกได้ดี แต่ทนต่อการกัดกร่อนได้น้อยกว่ากลุ่มออสเทนนิติก นิยมนำมาใช้ในงานที่ต้องสัมผัสกับแรงกระแทกสูง เช่น ชิ้นส่วนเครื่องจักรกล เครื่องมือ เป็นต้น
4. กลุ่มดูเพล็กซ์ (Duplex) 
เป็นกลุ่มสแตนเลสที่มีโครงสร้างผลึกออสเทนนิติกและเฟอริติคผสมกัน มีลักษณะเด่นคือ ทนต่อการกัดกร่อนได้ดีกว่ากลุ่มออสเทนนิติกและกลุ่มเฟอริติค นิยมนำมาใช้ในงานที่ต้องสัมผัสกับสารเคมี เช่น อุตสาหกรรมเคมี อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น
5. กลุ่มอื่น ๆ (Others) 
เป็นกลุ่มสแตนเลสที่มีโครงสร้างผลึกไม่ตรงตามกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง มักมีส่วนผสมของธาตุอื่น ๆ นอกเหนือจากโครเมียม นิกเกิล และโมลิบดีนัม เช่น ไทเทเนียม วานาเดียม ซีเรียม เป็นต้น นิยมนำมาใช้ในงานเฉพาะด้าน เช่น อุตสาหกรรมอวกาศ อุตสาหกรรมนิวเคลียร์ เป็นต้น

ท่อสแตนเลส มีประโยชน์มากมาย ดังนี้
– ทนต่อการกัดกร่อน 
สแตนเลสมีส่วนผสมของโครเมียมซึ่งมีคุณสมบัติต้านทานการกัดกร่อนได้ดี จึงนิยมนำมาใช้ในงานที่ต้องสัมผัสกับสารเคมี เช่น อุตสาหกรรมเคมี อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมก่อสร้าง เป็นต้น
– แข็งแรงทนทาน 
สแตนเลสมีความแข็งแรงและทนทานสูง จึงนิยมนำมาใช้ในงานที่ต้องรับน้ำหนักหรือแรงกระแทก เช่น ท่อประปา ท่อระบายน้ำ เครื่องจักรกล เป็นต้น
– ไม่เป็นสนิม 
สแตนเลสไม่เกิดสนิมได้ง่าย จึงนิยมนำมาใช้ในงานที่ต้องการความสะอาดและปลอดภัย เช่น ภาชนะบรรจุอาหาร เครื่องครัว เป็นต้น
– สวยงาม 
สแตนเลสมีผิวเรียบเงางาม จึงนิยมนำมาใช้ในงานตกแต่ง เช่น ราวบันได ราวระเบียง เป็นต้น
การเลือกท่อสแตนเลสควรพิจารณาจากลักษณะการใช้งานเป็นหลัก เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและการใช้งานมากที่สุด