ไม้ที่นิยมนำมาทำเฟอร์นิเจอร์ พร้อมวิธีเลือกไม้เฟอร์นิเจอร์

ไม้ที่นิยมนำมาทำเฟอร์นิเจอร์ พร้อมวิธีเลือกไม้เฟอร์นิเจอร์

Table of Contents

เฟอร์นิเจอร์เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้บ้านดูอบอุ่นและมีสไตล์ ซึ่งวัสดุที่ได้รับความนิยมสูงสุดก็คือ “ไม้” เพราะมีทั้งความสวยงาม แข็งแรง และสามารถปรับให้เข้ากับทุกสไตล์การตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นโมเดิร์น มินิมอล หรือคลาสสิก แต่คำถามที่หลายคนสงสัยคือ ไม้เฟอร์นิเจอร์แบบไหนดี? ระหว่าง ไม้แท้ (Wood) และ ไม้ทดแทน เช่น ไม้MDF, ไม้HMR, ไม้ปาติเกิล หรือไม้อัด

บทความนี้คือ คู่มือฉบับเต็ม ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจการเลือกไม้เฟอร์นิเจอร์ ทั้งชนิดไม้ ข้อดีข้อเสีย ราคา และวิธีดูแลรักษา

ไม้เฟอร์นิเจอร์คืออะไร?

ไม้เฟอร์นิเจอร์เป็นวัสดุหลักที่ใช้ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ ตู้ เตียง ชั้นวางของ หรือ เฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน เฟอร์นิเจอร์ไม้ไม่เพียงแค่ช่วยให้บ้านหรือสำนักงานดูสวยงามเท่านั้น แต่ยังตอบโจทย์เรื่องความสะดวกสบายในการใช้งานและความทนทานต่อการใช้งานประจำวัน ไม้เฟอร์นิเจอร์แต่ละประเภทมี คุณสมบัติ ข้อดี ข้อเสีย และกระบวนการผลิต แตกต่างกัน การทำความเข้าใจเรื่องเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกซื้อไม้เฟอร์นิเจอร์ได้ตรงตามการใช้งานและคุ้มค่ากับงบประมาณ

ไม้ที่นิยมนำมาทำเฟอร์นิเจอร์

ไม้แท้

1. ไม้แท้ (Wood)

ไม้แท้ (Wood) คือ การนำไม้จริงจากต้นไม้ทั้งต้นหรือท่อนมาผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์ทั้งชิ้นงาน ซึ่งเคยเป็นที่นิยมมากในอดีต เพราะไม้หาง่าย ราคาถูก และไม่ต้องใช้วัสดุทดแทน ต้องอาศัยช่างไม้ที่มีทักษะในการต่อไม้แบบเข้าเดือย ในปัจจุบัน เฟอร์นิเจอร์ไม้จริงเริ่มหายากขึ้น เนื่องจากไม้ใหญ่มีจำนวนจำกัด ราคาสูง และมีวัสดุทดแทนที่ทนทาน เช่น ไม้เทียมหรือไม้ประสาน ไม้ที่นิยมใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ไม้แท้ ได้แก่ ไม้สัก ไม้ประดู่ ไม้เต็ง ไม้แอช ไม้โอ๊ค ไม้มะค่า ไม้แดง ไม้ตะเคียนทอง ไม้ตะแบก

ข้อดีของไม้แท้

  • แข็งแรง ทนทานต่อการใช้งาน ทำจากไม้เนื้อเดียวกันทั้งท่อน
  • ลวดลายสวยงามเป็นธรรมชาติ แตกต่างกันแต่ละชิ้น

ข้อเสียของไม้แท้

  • เกิดรอยขีดข่วนหรือรอยน้ำง่าย ต้องดูแลด้วยน้ำยาหรือขี้ผึ้ง
  • มีการหด-ขยายตัวตามความชื้น ต้องเผื่อพื้นที่ในการติดตั้ง
  • เสี่ยงต่อปลวกและแมลงต่างๆ
  • หากใช้ไม้ที่อายุน้อย อาจไม่แข็งแรง
  • มีน้ำหนักมาก ทำให้ขนย้ายยาก
  • ราคาสูงและหาได้ยาก
ไม้ hmr

2. ไม้ HMR

ไม้ HMR (High Moisture Resistance Board) ผลิตจากไม้ยูคาลิปตัสที่นำมาสับและบดจนเป็นเส้นใยละเอียด จากนั้นผสมสารกันความชื้นและกาวชนิดพิเศษก่อนอัดประสานด้วยกรรมวิธีพิเศษ ทำให้ไม้ HMR มีความทนทานต่อการบวม บิด โก่งงอ แม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง ไม้ HMR สามารถนำไปตัด เจาะ ดัด หรือทำลวดลายตกแต่งได้ง่ายโดยไม่เกิดการแตกหรือบิ่น สามารถใช้กับเครื่องมือสำหรับงานไม้ได้ทุกชนิด จึงนิยมใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องสัมผัสความชื้น เช่น ตู้ครัว ตู้บานซิงค์ ตู้แขวนในห้องน้ำ ฝ้าดรอป หรือผนังตกแต่งในห้องต่าง ๆ

ข้อดีของไม้ HMR

  • ทนต่อความชื้นได้ดี
  • เนื้อไม้แน่น แข็งแรง รองรับน้ำหนักได้ดี
  • สามารถทาสี ย้อมสี และพ่นสีได้เรียบเนียน
  • ดัด เจาะ หรือเซาะลวดลายตกแต่งได้โดยไม่แตกหรือเป็นขุย
  • ผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอทั้งแผ่น

ข้อเสียของไม้ HMR

  • ราคาสูงกว่าไม้ประเภทอื่น
  • น้ำหนักมากกว่าไม้ทั่วไป
ไม้ MDF

3. ไม้ MDF

ไม้ MDF (Medium Density Fiberboard) คือแผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นปานกลาง ผลิตจากเศษไม้หรือไม้เหลือใช้จากกระบวนการผลิต นำมาบดเป็นเส้นใย ผสมกาวแล้วอัดเป็นแผ่นด้วยความร้อน ก่อนเคลือบผิวด้านนอกด้วยกระดาษ เมลามีน ลามิเนต หรือสามารถพ่นสีทับเพื่อความเรียบร้อย ไม้ MDF มีพื้นผิวเรียบเนียน ละเอียด เหมาะสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูป ทั้งแบบลอยตัวและบิลท์อิน

ข้อดีของไม้ MDF

  • เนื้อไม้หนาแน่น แข็งแรงกว่าไม้ปาร์ติเกิ้ล
  • ผิวละเอียด เรียบเนียน สม่ำเสมอตลอดแผ่น
  • ทนน้ำได้ดีกว่าไม้ปาร์ติเกิ้ล
  • สามารถพ่นสี ทาสีลงเข้าไปในเนื้อไม้ได้

ข้อเสียของไม้ MDF

  • ไม่สามารถรับน้ำหนักมากได้ อาจเกิดการแอ่นตัวได้ แม้ว่าจะทนทานกกว่าไม้ปาร์ติเกิลทั่วไป
  • การตัด เจาะ หรือกลึงไม้ MDF อาจทำให้เกิดฝุ่นจำนวนมาก
  • เสี่ยงต่อมอด ปลวก และแมลงกัดเซาะ จึงควรทาสีหรือเคลือบด้วยสารป้องกันปลวกและแมลง
  • ไม่ทนต่อความชื้น จึงไม่เหมาะกับการใช้งานในบริเวณที่เปียกหรือสัมผัสน้ำโดยตรง
ไม้ปาติเกิ้ล

4. ไม้ปาติเกิล

ไม้ปาติเกิล (Particle Board / PB) หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่าไม้ PB เป็นแผ่นไม้ที่ผลิตจากเศษไม้ชิ้นเล็ก ๆ และขี้เลื่อย ผสมกับกาวและสารเคมี ก่อนนำไปอัดขึ้นรูปด้วยความดันสูงจนได้แผ่นไม้ขนาดต่าง ๆ ไม้ปาร์ติเกิลถือเป็นไฟเบอร์บอร์ดชนิดหนึ่ง และเป็นไม้ไฟเบอร์บอร์ดที่มีน้ำหนักเบาที่สุด เนื่องจากมีโพรงอากาศในเนื้อไม้ เนื้อไม้มีความเหนียวจากเส้นใยที่ประสานกัน แต่ฟูและหยาบ ทำให้ความแน่นและความแข็งแรงน้อยกว่าไม้ MDF หรือไม้ HMR ไม้ปาร์ติเกิลจึงเหมาะสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป โครงไม้ทําเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน หรือการปิดผิวด้วยกระดาษ เมลามีน ลามิเนต แทนการพ่นสีโดยตรง

ข้อดีของไม้ปาติเกิล

  • มีวัสดุปิดผิวหลายลวดลายให้เลือกตามสไตล์
  • ทำความสะอาดง่าย เพียงเช็ดถูตามปกติ
  • น้ำหนักเบา ขนย้ายสะดวก
  • ราคาถูก หาซื้อง่าย

ข้อเสียของไม้ปาติเกิล

  • ความแข็งแรงน้อยกว่าไม้ประเภทอื่น ๆ
  • เนื้อไม้ไม่หนาแน่น มีฟองอากาศภายใน ทำให้รับน้ำหนักมากไม่ได้ เสี่ยงต่อการแอ่นตัว
  • ไม่ทนความชื้น หากโดนน้ำจะทำให้แผ่นปิดผิวบวม เนื้อไม้เปื่อยยุ่ย และอาจจะทำให้เกิดเชื้อราได้ง่าย
ไม้อัด

5. ไม้อัด

ไม้อัด (Plywood) เป็นไม้คุณภาพสูงในกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ ด้วยความแข็งแรงและทนทาน กระบวนการผลิตไม้อัดเริ่มจากการนำไม้ท่อนซุงมาปอกเปลือกชั้นนอกส่วนที่ผิวไม่เรียบออกและผ่าเป็นแผ่นบาง ๆ เรียกว่า วีเนียร์ (Veneer) จากนั้นนำวีเนียร์มาประกอบเป็นชั้น ๆ และอัดเข้าด้วยกันโดยใช้กาวเป็นตัวประสาน โดยจัดเสี้ยนไม้ของแต่ละชั้นให้ตั้งฉากกัน เพื่อเพิ่มความแข็งแรง ลดการยืดหรือหดตัวเมื่อความชื้นเปลี่ยนแปลง ผิวไม้อัดมักจะปิดด้วยเยื่อบุไม้ หรือวัสดุปิดผิวชนิดต่าง ๆ ไม้อัดทำจากไม้หลายชนิด เช่น ไม้สัก, ไม้ยาง, ไม้ชิงชัน, ไม้ประดู่, ไม้ตองจิง, ไม้จำปา, ไม้สยา และไม้กะบาก

ข้อดีของไม้อัด

  • แข็งแรง ทนทาน สามารถรับแรงได้ทั้งสองทาง
  • ยืดหยุ่น ไม่บิดงอง่าย และไม่หดตัว
  • เจาะหรือประกอบเข้ารูปได้ง่าย ไม่แตกเป็นชิ้น
  • สามารถเพิ่มคุณสมบัติพิเศษ เช่น กันน้ำ กันปลวก และกันเชื้อราได้
  • มีความสวยงาม ลวดลายไม้ต่อเนื่อง ผิวดูเรียบ

ข้อเสียของไม้อัด

  • ไม่เหมาะกับการเซาะร่องลึก
  • ทนต่อน้ำได้เพียงระดับหนึ่ง
  • หากไม่เคลือบผิว จะเช็ดทำความสะอาดยาก และอาจมีเสี้ยน ต้องขัดและปิดขอบให้เรียบร้อย
  • มีน้ำหนักมาก
  • ราคาสูง เนื่องจากใช้ไม้จริงทั้งแผ่น

เปรียบเทียบไม้เฟอร์นิเจอร์แต่ละชนิด

ชนิดไม้ จุดเด่น ข้อควรระวัง เหมาะกับ ราคา โดยประมาณ
ไม้แท้ (Wood) แข็งแรง ทนทาน ทำจากไม้เนื้อเดียวกัน ลวดลายไม้ธรรมชาติสวยงาม ไม่ซ้ำใคร ราคาสูง หายาก ผิวไม้เป็นรอยง่าย ต้องดูแลด้วยน้ำยาหรือขี้ผึ้ง มีน้ำหนักมาก ต้องระวังปลวกและแมลง เฟอร์นิเจอร์ไม้แท้คุณภาพสูง โต๊ะ ตู้ เตียง เฟอร์นิเจอร์หรูหราในบ้านหรือสำนักงาน ราคา สูงที่สุด
ไม้อัด HMR (High Moisture Resistance Board) ทนความชื้น แข็งแรง รองรับน้ำหนักดี ผิวเรียบเนียน ตัด เจาะ ดัดตกแต่งได้ง่าย ราคาสูง น้ำหนักมาก ต้องหลีกเลี่ยงน้ำสัมผัสต่อเนื่อง เฟอร์นิเจอร์ทนความชื้น ตู้ซิงค์ ห้องน้ำ เคาน์เตอร์ครัว ฝ้าเพดาน ผนังตกแต่ง ราคา ปานกลาง-สูง
ไม้ MDF (Medium Density Fiberboard) ผิวเรียบเนียน หนาแน่น แข็งแรงกว่าปาร์ติเกิล ทาสีหรือปิดลามิเนตได้ง่าย ขัดโค้งได้ น้ำหนักมาก รับน้ำหนักจำกัด ฝุ่นเยอะเมื่อเจาะหรือกลึง ต้องระวังความชื้นและปลวก เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว บิลท์อิน ตู้โชว์ ชั้นวาง โต๊ะทำงาน ราคา ปานกลาง-ต่ำ
ไม้ปาร์ติเกิ้ล (Particle Board / PB) น้ำหนักเบา ราคาประหยัด มีลวดลายและวัสดุปิดผิวหลายแบบ ทำความสะอาดง่าย แข็งแรงน้อย ฟู มีโพรงอากาศ รับน้ำหนักมากไม่ได้ ไม่ทนน้ำ เสี่ยงบวมและเชื้อรา เฟอร์นิเจอร์ราคาประหยัด ชั้นวาง โต๊ะเก้าอี้ ตู้เก็บของ ใช้ภายในที่ไม่สัมผัสน้ำ ราคา ต่ำที่สุด
ไม้อัด (Plywood) แข็งแรง ทนทาน ยืดหยุ่น ไม่บิดงอง่าย เจาะประกอบง่าย ลวดลายไม้ต่อเนื่องสวยงาม สามารถเพิ่มคุณสมบัติกันน้ำ ปลวก เชื้อรา ราคาสูง น้ำหนักมาก ทนต่อน้ำได้ระดับหนึ่ง ไม่เหมาะกับเซาะร่องลึก ต้องขัดและปิดขอบ เฟอร์นิเจอร์คุณภาพสูง โต๊ะ ตู้ เตียง งานตกแต่งผนังและพื้นบ้าน ราคา สูง

วิธีเลือกไม้เฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะกับการใช้งาน

ขั้นตอน คำแนะนำ รายละเอียดเพิ่มเติม
1. กำหนดลักษณะการใช้งานไม้เฟอร์นิเจอร์ ระบุประเภทและตำแหน่งของเฟอร์นิเจอร์ เลือกไม้สำหรับ เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน หรือ ภายนอกบ้าน , ตรวจสอบว่าไม้ต้องสัมผัสน้ำหรือไม่ (เช่น ไม้อัด HMR เหมาะกับห้องน้ำและครัว) , ประเมินน้ำหนักที่เฟอร์นิเจอร์ต้องรองรับ , พิจารณาความสวยงาม: ลวดลายไม้ธรรมชาติหรือไม้เคลือบผิวลามิเนต
2. เลือกชนิดไม้เฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสม เลือกไม้ตามคุณสมบัติและงานที่ต้องการ ไม้แท้ (Wood) : แข็งแรงทนทาน ลวดลายไม้สวย เป็นธรรมชาติ แต่ราคาแพง , ไม้อัด HMR (High Moisture Resistance Board) : ทนความชื้น เหมาะกับ เฟอร์นิเจอร์ครัวและห้องน้ำ , ไม้ MDF : ผิวเรียบ เหมาะกับ เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและบิลท์อิน , ไม้ปาร์ติเกิ้ล (Particle Board / PB) : น้ำหนักเบา ราคาประหยัด เหมาะกับเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป , ไม้อัด (Plywood) : แข็งแรง ทนทาน ใช้งานทั่วไปและตกแต่งได้หลายแบบ
3. เปรียบเทียบราคาและความคุ้มค่าไม้เฟอร์นิเจอร์ เลือกไม้ให้เหมาะกับงบประมาณและความต้องการ ประเมิน งบประมาณ ที่มีสำหรับการซื้อไม้เฟอร์นิเจอร์ , เลือกไม้ที่ตรงตามความต้องการและการใช้งาน , พิจารณาความทนทานต่อเวลาและการบำรุงรักษา , ไม้เฟอร์นิเจอร์ที่คุ้มค่า คือไม้ที่ ใช้งานได้นาน ไม่เสียเงินซ้ำบ่อย

หาซื้อไม้เฟอร์นิเจอร์ ราคาดี ต้องแวะมาที่ Buildmate ช้อปออนไลน์ ง่ายสะดวก

หากต้องการตามหาไม้ที่นิยมนำมาทำเฟอร์นิเจอร์ ราคาถูกใกล้ฉัน นึกถึง BUILDMATE เพื่อนสร้างของคุณ เราจำหน่ายไม้ที่นิยมนำมาทำเฟอร์นิเจอร์ ราคาถูก คุณภาพดี ทนทาน ดีเยี่ยม! อีกทั้งเรามีไม้อัด ให้เลือกหลากหลายขนาด เพื่อให้คุณกำหนดงบประมาณการก่อสร้างได้ง่าย และ ดูแบ่งขอบเขตและเป็นสัดส่วน ไปดูกัน

นอกจากไม้ HMR แล้ว BUILDMATE ยังมี ไม้อัด, ไม้MDF, ไม้ปาติเกิล , ไม้อัดยาง , ไม้อัดเคลือบฟิล์มดำ , แผ่นพลาสวูด และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้เป็นองค์ประกอบในงานก่อสร้าง 

สนใจสอบถามและสั่งสินค้าได้ที่ 021141978 หรือที่ LINE ทุกขั้นตอนจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด และตอบทุกความต้องการอย่างรวดเร็วแน่นอน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับไม้เฟอร์นิเจอร์

ไม้ MDF ทนน้ำไหม? ต่างจากไม้ HMR ยังไง?

ไม้MDF : ราคาถูกกว่า แต่ ไม่ทนน้ำ ใช้ในห้องแห้ง
ไม้HMR : ราคาสูงกว่าเล็กน้อย แต่ ทนความชื้นได้ดีกว่า เหมาะกับงานที่เสี่ยงเจอความชื้น

ไม้ปาติเกิล พังง่ายจริงหรือ?

ไม้ปาติเกิลแข็งแรงน้อยกว่า ไม้ MDF และไม้อัดประเภทอื่น จุดอ่อนคือ ไม่ทนชื้น โดนน้ำแล้วบวมง่าย รับน้ำหนักได้จำกัด หากใช้ทำเฟอร์นิเจอร์รับแรงมากอาจแอ่นได้ ควรเลือกความหนาที่เหมาะสมหรือเสริมโครงสร้าง แต่ถ้าต้องการความทนทาน แนะนำใช้ ไม้ MDF หรือไม้อัดแทน

เมลามีนกับลามิเนต เลือกอะไรดี?

ขึ้นอยู่กับการใช้งาน
เมลามีน (Melamine) : ราคาถูก ผิวเรียบ ทำความสะอาดง่าย เหมาะกับ เฟอร์นิเจอร์ทั่วไป ห้องนอน โต๊ะทำงาน แต่ ไม่ทนรอยขีดข่วนและน้ำมาก
ลามิเนต (Laminate) : แข็งแรง ทนรอยขีดข่วน กันน้ำและความร้อนได้ดี เหมาะกับ ครัว เคาน์เตอร์ โต๊ะอาหาร หรือเฟอร์นิเจอร์ใช้งานหนัก

เลือกไม้เฟอร์นิเจอร์ครัวควรใช้แบบไหนดี?

ไม้อัด (Plywood) : แข็งแรง ทนความชื้น เหมาะกับ เฟอร์นิเจอร์ครัว, ตู้ครัว, ชั้นวางของ
ไม้HMR ,ไม้MDF ชนิดพิเศษ : ทนชื้นมากกว่าไม้ MDF ปกติ ใช้ทำ เฟอร์นิเจอร์ครัว, ตู้ครัวบิวท์อิน
ไม้ปาติเกิล ธรรมดา : ไม่แนะนำสำหรับครัวเพราะ ไม่ทนความชื้นและพังง่าย

บทความแนะนำ

ค้นหาสินค้าด่วน