เครื่องเป่าลม Makita 530W รุ่น M4000B

รายละเอียดสินค้า

• ประสิทธิภาพสูงและทนทานด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยลง
• ให้ความเร็วลมสูงสุด 87 เมตร/วินาที เพื่อการทำความสะอาดหน้างานที่รวดเร็วขึ้น
• แป้นหมุนและทริกเกอร์ควบคุมความเร็วแบบปรับได้ (8,500-16,000 RPM) เพื่อประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น
• ปริมาณลมสูงสุด 2.9 ลบ.ม./นาที เพื่อการทำความสะอาดที่รวดเร็วยิ่งขึ้นในพื้นที่ขนาดใหญ่
• ความยาวสายไฟ 2 เมตร
• กะทัดรัดและน้ำหนักเบาเพื่อลดความเมื่อยล้าของผู้ปฏิบัติงาน
• ฉนวนสองชั้น

วิธีใช้งาน

• สำหรับงานลอกสีโดยทั่วไปจะใช้ความเร็วพัดลมสูงสุดและลมร้อนสูงสุดของ เครื่องเป่าลมร้อน งานอื่นๆ เช่น งานบัดกรีข้อต่อท่อประปา หรืองานขันน็อตที่เป็นสนิมก็จะตั้งค่าเช่นเดียวกันนี้ แต่การใช้ความเร็วพัดลมต่ำๆ ก็มีประโยชน์ในการทำงานอื่นๆ เช่นกัน ตัวอย่างเช่น
• การทำสีหรือเคลือบเงา ควรใช้ความร้อนที่ 30 °C ถึง 130 °C และต้องระมัดระวังลมแรง เพราะฝุ่นละอองต่างๆ ที่หน้างานอาจปลิวไปบนสีหรือสารเคลือบเงาได้บนชิ้นงานได้
• การทำให้ไม้ที่ชื้นแห้งดีก่อนนำไปอุดหรือทาสี ควรใช้ความร้อนประมาณ 100 °C ถึง 200 °C
• การทำให้กาวในงานยกพื้นหรือในยางกันบาดขอบโต๊ะอ่อนตัวเพื่อจะลอกออก ควรใช้ความร้อนประมาณ 300 °C ถึง 400 °C
• การดัดท่อพลาสติก ควรใช้ความร้อนที่ประมาณ 200 °C ถึง 300 °C
• การซีลพลาสติกหุ้ม ควรใช้ความร้อนที่ประมาณ 200 °C ถึง 300 °C
• การเชื่อมพลาสติกบางชนิด ควรใช้ความร้อนประมาณ 330 °C ถึง 400 °C

คำแนะนำและข้อควรระวัง

• เครื่องเป่าลมร้อน มีกำลังไฟสูง เมื่อจำเป็นต้องใช้สายต่อขยายให้ใช้สายที่รองรับกระแสไฟฟ้าได้ 10 แอมป์หรือมากกว่าเท่านั้น ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร และควรคลายสายจนสุดเสมอเมื่อใช้งาน
• ห้ามกีดขวางท่อเป่าลม เพราะจะทำให้เครื่องมีความร้อนภายในสูงเกินไป เครื่องอาจจะติดไฟได้
• ห้ามจ่อหัวเป่าลมชิดติดกับชิ้นงานหรือพื้นผิวใดๆ เพราะการระบายลมจะติดขัด มีผลเหมือนการกีดขวางท่อเป่าลม
• ห้ามใช้เครื่องเป่าลมใกล้กับวัตถุไวไฟ
• ต้องปิดสวิตช์เครื่องเป่าลมทุกครั้งก่อนวางลงบนพื้นที่ใดๆ ก็ตาม
• ทิ้งให้เครื่องเย็นลงก่อนจัดเก็บเสมอ
• อย่าวางใกล้วัตถุอื่นขณะที่เครื่องยังร้อนอยู่ โดยเฉพาะสิ่งที่ละลายง่าย
• อย่ามองเข้าไปในท่อเป่าลมขณะเปิดใช้งานเด็ดขาด
• ห้ามให้มีสิ่งใดๆ เกาะที่หัวเป่าลม หากมีให้แกะออกหลังเครื่องเย็นลงดีแล้ว
• ห้ามใส่อะไรเข้าไปในหัวเป่าลม